Press release คือ การประชาสัมพันธ์ที่เผยแพร่ผ่านทางสื่อต่างๆ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะให้สาธารณะทราบถึงการประชาสัมพันธ์นั้นๆ
Online press release คือ การประชาสัมพันธ์ดังกล่าวผ่านทางเว็บไซต์
ประโยชน์ของการทำ online press releases เป็นวิธีอันชาญฉลาดในการนำชื่อของคุณและบริษัทคุณไปอยู่ในอินเตอร์เน็ตเพื่อที่จะได้ traffic และ link popularity
ปัจจุบันผู้คนต่างใช้เว็บค้นหาข่าวเพื่อที่จะค้นหาข้อมูลที่เขาต้องการ ในแต่ละเดือนมีผู้คนมากกว่า 27 ล้านคนใน USA ใช้ google news และ yahoo news ในการค้นหาข้อมูลใหม่ๆ ในหัวข้อที่เขาเหล่านั้นสนใจ
มีคนในจำนวนเหล่านั้นมากเหลือเกินที่คุณสามารถเปลี่ยนให้เขามาเป็นลูกค้าของคุณได้ ดังนั้นคุณจงมั่นใจว่าพวกเขาสามารถพบบริษัทและข้อมูลต่างๆ ของคุณผ่านการทำ online press release
วิธีการเขียน press releases
ขั้นตอนง่ายๆ 5 ขั้นตอนในการเขียน press release
1 มีสิ่งที่ต้องการสื่อ
2 คิดอย่างนักหนังสือพิมพ์
3 เขียน press release อย่างถูกต้อง
4 ทำ press release ให้สั้น ได้ใจความ!!!
5 โปรโมต press release ของคุณผ่านทางเว็บไซต์
1 มีสิ่งที่ต้องการสื่อ (Has the thing to issue on press release)
คุณต้องมีเรื่องราวที่จะกล่าวถึง มีมุมมองที่น่าสนใจ อาจจะเป็นข่าวที่น่าสนใจในขณะนั้นก็เป็นได้
จากนั้น หาเรื่องราวของคุณและต่อยอดความคิดของสิ่งที่ต้องการจะสื่อ คิดให้แตกต่าง ในขณะทีุ่คุณกำลังพยายามทำสิ่งเหล่านี้ ให้คำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้
- บทความควรจะเกี่ยวข้องกับวันหยุดหรือเหตุการณ์สำคัญๆในช่วงนั้นๆ
- บทความที่เชื่อมโยงกับบทความทางการเมืองและสังคมที่สำคัญๆ
- การเปลี่ยนแปลงและพัฒนา รวมถึงสินค้าใหม่ๆ
- เหตุการณ์ที่ผิดปกติ ไม่ธรรมดา ไม่เกิดขึ้นบ่อยๆ หรือการประสบความสำเร็จของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
- เรื่องตลกขบขัน เรื่องรอบรู้ หรือเรื่องน่าสลด
- ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่ไม่ควรตีแผ่
2 คิดให้เหมือนนักหนังสือพิมพ์
อะไรคือเหตุผลที่ทำให้ผู้เขียนนั้นเขียนข่าวของเขา ผู้อ่านจะได้รับประโยชน์อะไรจากข่าวดังกล่าว นี่คือสิ่งที่ทำให้คนต้องคิดอย่างนักเขียนข่าว
เขียนประโยชน์หรือสิทธิพิเศษของคุณไว้ที่หัวเรื่องใหญ่ (Press release headline) และให้ข้อมูลเพิ่มเติมในลักษณะของการตอบคำถามได้แก่ ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร และเมื่อไร
หากคุณไม่เริ่ม press release ของคุณด้วยสไตล์การพาดหัวข่าวของนักข่าวแล้ว มันจะทำให้ press release ของคุณไม่น่าสนใจและผู้อ่านมักจะสิ้นสุดการอ่านที่หัวข้อข่า่วเท่านั้น วัตถุประสงค์อันเดียวของการเขียนหัวข้อ press release คือดึงดูดความสนใจของผู้อ่าน
พยายามใช้คำง่ายๆ แต่ดึงดูดความสนใจได้ดีเช่น "YOU" "NEW" หรือ "HOW TO"
เขียนให้อ่านง่าย เขียนให้สั้น แต่ได้ใจความ นี่คือสิ่งสำคัญในการเขียน press release
3 รูปแบบในการเขียน press release อย่างถูกต้อง
นี่คือรูปแบบในการเขียน press release ที่ถูกต้อง
[เริ่ม]
พาดหัว
[จบ]
โดย
(a) อะไร ทำไม สิ่งนี้จะช่วยคุณได้อย่างไร การอ้างคำพูดหรือถ้อยความคุ้นหูมาก็สามารถทำได้
(b) ใครคือเป้าหมายของบทความนี้ ใครที่ควรจะสนใจบทความนี้ ให้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับบทความ
(c) บทสรุปของ press release
แน่นอนว่า ถ้อยคำต่างๆที่คุณใช้ใน press release นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
หัวข้อ press release เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของ press release การใช้ประโยคเิปิดย่อมเป็นสิ่งที่ดี
พยายามเล่าเรื่องราวของคุณที่กล่าวในหัวข้อ press release ในย่อหน้าแรก
พยายามเปลี่ยนข้อความที่อยู่ในรูป passive ให้เป็น active
ใช้คำว่า "คุณ"
press release ควรกระชับ สื่อถึงจุดขายเท่านั้น
ทุกๆประโยคที่คุณเขียน ให้ตังคำถามกับตัวเองว่า "แล้วยังไงล่ะ" หากคุณหาคำตอบดีๆให้ตัวเองไม่ได้ ก็ให้ลบประโยคดังกล่าวทิ้ง
พยายามแ้ก้ press release ของคุณหลายๆ รอบ
ไม่ใส่ ไฟล์แนบ html หรือ ไฟล์เวิร์ด เนื่องจากปัจจุบันนี้คนส่วนใหญ่ให้ความระมัดระวังเรื่องนี้ค่อนข้างมาก
4 กระชับ press release ของคุณให้สั้น!!!
ลองถามตัวเองว่า
- คุณคิดว่ามี press releaese จำนวนเท่าไรที่บรรณาธิการต้องอ่านในแต่ละวัน
- ดังนั้นบรรณาธิการเลือกที่จะไม่อ่าน press release ที่มีแต่น้ำ press release ที่มีถ้อยคำฟุ่มเฟือย press release ที่มีความยาวมากเกินไป
ดังนั้น จงทำ press release ของคุณให้สั้น กระชับ ได้ใจความ
วิธีการที่ดีที่สุดในการ promote press release online นั้นคือการใช้เว็บบริการ press release
หนึ่งในเว็บไซต์ที่ดีคือ prweb.com ซึ่งเป็นผู้นำในการนำเสนอข่าวและ press release สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก กลางและใหญ่ prweb เป็นผู้ริเริ่มการกระจาย press release แบบไม่มีค่าใช้จ่าย และผู้เป็นสร้างมาตรฐานสำหรับการกระจายข่าว online ดังนั้น คุณจึงสามารถที่จะนำเสนอ press release ได้ฟรี หรือจะใช้บริการดังกล่าวแบบมีค่าใช้จ่าย ซึ่งทาง prweb จะรับรองถึงความหลากหลายของผู้รับข่าวสาร
วันเสาร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2551
Press release คืออะไร
สิ่งที่ต้องทำสำหรับมือใหม่หัด SEO
สวัสดีครับ สำหรับบทความนี้เขียนโดย John Metzler โดยผมนำมาจาก Entireweb Newsletter ครับ
ขออนุญาตไม่โพส original copy ครับ เอาแต่บทแปลอย่างเดียว เอาใจพี่น้องชาวไทยคับ ใครต้องการอ่าน original ตามไปดูได้ครับที่ Entireweb Newsletter อ้อ อย่าลืมกลับมาแนะนำด้วยนะครับ หากมีผิดพลาดประการใด ขอบคุณครับ
SEO ด้วยตนเอง: สิ่งที่ต้องทำสำหรับมือใหม่หัด SEO
1. สร้าง content ที่ search engine ชอบ
Web content ที่ไม่เหมือนใครเป็นทรัพย์สมบัติอันมีค่าของคุณ และต้องมั่นได้ว่า search engine สามารถอ่านเนื้อหาในเว็บของคุณได้ search engine ไม่สามารถอ่านข้อความใดๆที่อยู่ในรูปภาพต่างๆ รวมถึงทั้งไฟล์ flash ทั้งหลาย คุณต้องมั่นใจว่าคุณได้ใช้ keyword, heading, และลิงก์ต่างในรูปแบบของตัวอักษรธรรมดา แทนที่จะใช้รูปภาพเป็นปุ่มสำหรับลิงก์ไปยังหน้าเว็บต่างๆ คุณสามารถใช้ CSS ในการปรับแต่งให้ตัวอักษรธรรมดาของคุณดูคล้ายหรือเหมือนปุ่มที่เป็นรูปภาพ ดังนั้นคุณจึงควรใช้ anchor text ที่มีคุณภาพสำหรับเว็บของคุณประกอบกับการปรับแต่งให้ดูน่าตื่นตาตื่นใจ ใช้ heading tag อย่างถูกต้องและอย่าพยายามที่จะซ่อนข้อความใดๆ ในหน้าเว็บด้วยการทำสีให้เหมือนกับพื้นหลังหรือลดขนาดเพื่ออำพรางจากผู้เข้าชมแต่ให้search engine เห็นเท่านั้น ใช้ keyword ที่คุณต้องการให้ติดอันดับใน google บ่อย แต่ไม่มากจนเกินไป
มาถึงตอนนี้ คุณได้สร้าง content ที่ดีแล้ว คุณลองเช็คใน google ว่า webpage ที่คุณเพิ่งสร้างขึ้นได้รับการ index หรือยัง ถ้าคุณเพิ่งสร้างเพจขึ้นมาใหม่ ให้คุณรอสักสองสามวัน อันที่จริงแล้วมีหลายๆปัจจัยที่ทำให้เว็บเพจไม่ได้รับการ index เช่นการ copy content link ที่ถูกสร้างโดย javascript ไม่ใช่ html มีโครงสร้างเว็บเพจที่ไม่ดีเช่นมีการใช้ sub directory มากเกินไป url ยาวเกินไป หรือมีอักขระพิเศษ เป็นต้น
2. ใช้ keyword อย่างรอบคอบ
หนึ่งในขั้นตอนแรกๆของการทำ SEO คือการเขียนข้อความที่บรรยายเกี่ยวกับสินค้า บริการต่างๆ ของเว็บคุณ ใช้บริการวิเคราะห์คีย์เวิร์ด เช่น Wordtracker, KeywordDiscovery, หรือ the Google AdWords suggestion tool เพื่อตรวจสอบคำ กลุ่มคำ ต่างๆ โดยเป้าหมายคือการหากลุ่มคำที่กลุ่มเป้าหมายของคุณใช้ในการค้นหาเว็บของคุณหรือเว็บคนอื่นที่มีเนื้อหาใกล้เคียงกัน และปรับแต่งเว็บของคุณให้เหมาะกับกลุ่ม keyword นั้น ถ้ากลุ่มคำใดๆ ไม่เป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ค้นหา คุณก็จะได้ประโยชน์จาก ranking ของ keyword ตัวนั้นน้อย
นอกจากนี้ พยายามหลีกเลี่ยงเหล่านี้ เช่น art computers business ซึ่งเป็นคำทั่วๆไปที่ยากต่อการทำอันดับและผู้ค้นหาส่วนใหญ่มักจะไม่เกี่ยวข้องกับเว็บของคุณ
3. หา link จากเว็บอื่นมาสู่เว็บของคุณ
โดยทฤษฎีแล้วมีวิธีหลายหลากที่จะทำให้เว็บไซต์อื่นๆลิงก์มายังเว็บของคุณ google นิยามลิงก์คือการโหวตจากไซต์หนึ่งไปยังอีกไซต์หนึ่ง หากคุณได้รับโหวตจากเว็บคุณภาพหรือเว็บที่มีชื่อเสียง ลิงก์ที่คุณได้รับก็จะมีน้ำหนักมากขึ้น เว็บของคุณก็จะมีโอกาสติดอันดับมากขึ้น
หากเว็บของคุณมี content ที่มีประโยชน์และไม่เหมือนใคร นั่นแสดงว่าคุณกำลังนำหน้าคู่แข่งของคุณอยู่ เนื่องจากการลิงก์ไปยังเว็บของคุณย่อมต้องมีเหตุผล การซื้อขายลิงก์ก็สามารถทำได้ แต่การแลกเปลี่ยนลิงก์ link exchange นั้นไม่ควรทำ
ผมมีวิธีที่จะหาลิงก์จากเว็บอื่นๆ ดังนี้
- Press releases ที่มีลิงก์มายังเว็บของคุณ
- เพิ่มเว็บของคุณเข้าไปใน business directories เช่น yahoo, business.com
- comment ใน blog ต่างๆที่เกี่ยวกับเว็บคุณ เพื่อแลกเปลี่ยนไอเดีย
- หากคุณมีลูกค้าที่มีเว็บไซต์ ขอให้เขาเพิ่มเว็บของคุณไว้ใน partner section
- มีส่วนร่วมในเว็บต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บคุณแล้วทำลิงก์มายังเว็บของคุณใน signature
- ทำ social media และ web bookmarking
4. ใช้บริการ Web Social Media
ความร่วมมือกันระหว่างผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ทและนักพัฒนาในสังคมออนไลน์มีอยู่เป็นอย่างมาก Web bookmark เช่น Del.icio.us, StumbleUpon, Furl, Reddit, and Technorati ต่างเอื้ออำนวยให้คุณสามารถเก็บเว็บที่คุณโปรดปรานไว้บนเว็บดังกล่าว และสามารถแบ่งปันแก่ผู้อื่นได้ บริการดังกล่าวเหล่านี้ช่วยคุณในการโปรโมตเว็บของคุณอ้อมๆ นอกจากนี้การสร้าง myspace หรือ squidoo ของคุณก็เป็นอีกช่องทางในการแบ่งปันข้อมูลที่คุณมีได้
หากเป้าหมายของคุณคือการสร้างยอดขาย คุณต้องนำเสนอบางสิ่งโดยปราศจากการโฆษณาโปรโมชันของคุณ ความนิยมของ social media นั้นขึ้นอยู่ความสนใจที่แท้จริงของสังคมออนไลน์ หากสื่อข้อมูลต่างๆของคุณไม่เป็นของคุณเอง หรือไม่อยู่ในความสนใจของคนทั่วไป คนจะไม่มีทางประสบความสำเร็จในการใช้ social media
การใช้ social media และ booking เพื่อให้เกิดประโยชน์กับเว็บของคุณไม่ใช่เรื่องน่าอาย เป็นการเชื่อมต่อกับคนอื่นๆในเน็ตเวิร์ก บุ๊กมาร์กและแบ่งปัน content ที่มีประโยชน์ บอกเพื่อนๆของคุณให้โหวตให้กับ content ที่คุณมีบนเว็บดังกล่าว
6 วิธีที่เร็วและง่ายในการทำอันดับเว็บไซต์ใน google (Six Quick and Simple Waysto Dominate Google Rankings)
6 วิธีที่เร็วและง่ายในการทำอันดับเว็บไซต์ใน google
ต้นเหตุแห่งความสำเร็จของ Google นั้นเกิดจากการที่ Google ได้จัดเตรียมผลการค้นหาที่ดีที่สุดให้แก่ผู้ใช้งาน ผลการค้นหาถูกลำดับโดยค่าคำนวณอย่างมีที่มาที่ไป ค่าดังกล่าวเกิดจากการประกอบกันของเนื้อหาและจำนวนลิงก์ และลิงก์นี้เองที่เป็นปัจจัยที่สำคัญกว่า บนสมมติฐานของ Google
บทความนี้กล่าวถึงเคล็ดลับ 6 ประการที่ทำให้ประสบความสำเร็จในการทำลิงก์
1. ลิงก์ลึกและเกี่ยวข้อง
Google นั้นคิดว่าการที่ลิงก์ไปยัง homepage นั้นจะดีก็ต่อเมื่อ homepage นั้นมีข้อมูลที่ผู้เยี่ยมชมต้องการ เช่น หากคุณคลิกลิงก์สำหรับ keyword "amazing chocolate chip cookie recipe" และสิ้นสุดการค้นหาที่หน้า homepage และไม่มีข้อมูลใดๆที่ต้องการ Google จะประเมินว่าลิงก์ดังกล่าวเป็นลิงก์ที่ไม่มีคุณภาพ อีกนัยหนึ่งถ้าลิงก์ดังกล่าวนำไปสู่หน้าที่มีข้อมูลเกี่ยวกับ"amazing chocolate chip cookie recipe" ลิงก์ดังกล่าวจะถูกประเมินค่าที่ดีทั้งจากผู้เยี่ยมชมและตัว Google เอง
สิ่งที่พิสูจน์คำกล่าวนี้คือ
2. ทำ absolute link
สิ่งนี้ฟังดูซับซ้อน แต่อันที่จริงไม่เป็นเช่นนั้น absolute link คือลิงก์ที่ลิงก์ที่มี url แน่นอนตายตัวเช่น
"http://www.google.com/intl/en/ads/" เป็น absolute link ของ Google Advertising Programs
นอกจากนี้ยังมีลิงก์อีกประเภทหนึ่งคือ relative link คือ absolute link ที่ละในส่วนของโดเมนคงไว้เฉพาะส่วน file structure คือ
"./intl/en/ads/"
ทั้งนี้ absolute link เป็นลิงก์ที่เป็นประโยชน์ในการทำ SEO แต่ relative link ไม่เป็นเช่นนั้น
3. ใส่ keywords ใน anchor text
การใส่คำค้นหรือ keyword ที่เกี่ยวข้องลงใน anchor text (คำที่สามารถคลิกลิงก์ได้) การใส่คำทั่วไปเช่น click here หรือคลิกที่นี่ อย่างที่เห็นได้ทั่วไปตามเว็บไซต์ต่างๆ ไม่เป็นผลดีต่อการทำ SEO นอกจากจะไม่ผลดีต่อการทำ SEO แล้วยังลดค่า relevancy (ค่าที่แสดงความสัมพันธ์กันของ keyword) ของ keyword ที่แท้จริง เพราะ Google นั้นเชื่อว่าถ้าคำใดคำหนึ่งมีความสำคัญมากเพียงพอ คำๆนั้นจะถูกใช้เป็น link text หรือ anchor text
4. ทำตามกฏ 1% solution
ในหนึ่งหน้าเว็บเพจไม่ควรมี text ที่มีลิงก์เกิน 1% (ทั้ง outbound และ internal link) หากคุณมีข้อความ 500 คำในหนึ่งหน้าเพจ คุณไม่ควรมี link text เกิน 5 คำ และไม่ควรใช้ keyword เดิมในการลิงก์อีก
ทั้งนี้ยังมีทริกที่พอจะใช้ได้สำหรับการทำลิงก์ดังตัวอย่างต่อไปนี้
If "chocolate chip cookies" is your main keyword phrase you might use "chocolate chip cookies" as the anchor text for one link and then "my favorite chocolate chip cookie recipe" for another link.
ทั้งนี้ยังเป็นการเพิ่มจำนวนคำไปในตัว ทำให้สามารถเพิ่มจำนวนลิงก์ตามกฏ 1% solution ได้
5. ถึงลิงก์จะเสีย แต่ก้อปลอดภัย
นี่เป็นสิ่งที่ง่ายแต่มักไม่มีใครทำ ลิงก์ต่างๆของเว็บไซต์มีโอกาสเสีย ลิงก์ไม่เจอ ได้บ่อยครั้ง หลายครั้งเกิดจากการที่เราย้ายเว็บเพจ แต่ในบางครั้งมันก็เกิดจากความไม่ตั้งใจ วิธีแก้ไขคือสร้าง custom 404 page (Page Not Found) คือหน้าเว็บเพจที่ดูเหมือนหน้าอื่นๆทั่วไป มีไว้เพื่อรองรับ error 404 page not found มักจะมีข้อความเช่น "We're sorry we cannot find the page you are looking for. However, if you love cookies of all kinds we think you'll find exactly what you want by clicking on one of the following links..."
6. หาลิงก์ดีๆมาสู่เว็บ
นี่เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะมันเป็นสิ่งที่ยากและใช้ระยะเวลาในการที่จะได้ลิงก์มา หากคุณไม่ได้สิ่งใดๆเลยจากบทความนี้ โปรดจงจำไว้เพียงว่า การหา inbound link ที่ดีที่สุดเป็นสิ่งเดียวที่สำคัญที่สุดที่คุณสามารถทำได้เพื่อที่จะทำให้เว็บของคุณติดอันดับ
มีทิปสามประการที่ลดเวลาของคุณและเป็นประโยชน์ต่อผลการทำ SEO
ก. สร้างลิงก์จาก web directory
submit site ใน web directory ชื่อดังเช่น jayde.com และ dmoz.org เมื่อคุณได้รับการลิงก์จาก web directory เหล่านี้ คุณจะได้รับ inbound link จากเว็บที่เกี่ยวข้องและความเชื่อถือจาก google ในระดับหนึ่ง
เว็บเหล่านี้เป็นเว็บไดเรกทอรี่ฟรีชื่อดังได้แก่ dmoz.org, jayde.com, webworldindex.com, turnpike.net, directoryvault.com Yahoo ก็เป็นเว็บไดเรกทอรี่ชื่อดังที่มีค่าใช้จ่าย US$299
ข. ใช้คำสั่งพิเศษ
ใช้คำสั่งพิเศษ allinanchor: เพื่อค้นหาเว็บที่มีความเกี่ยวข้องกับ keyword ที่ต้องการ
วิธีใช้คือ พิมพ์ allinanchor:keyword ใน google search box โดยเปลี่ยน keyword เป็น keyword ที่ต้องการ
โดยไม่ต้องใส่เครื่องหมาย " และไม่เว้นวรรคหลังจาก colon เมื่อคลิกปุ่ม search คุณจะพบเว็บไซต์ที่มีความเกี่ยวข้องสูงสุด (highest relevancy) สำหรับ keyword ที่ใช้ใน anchor text
นอกจากนี้ยังสามารถใช้ allinanchor: ในการวิเคราะห์คู่แข่งได้อีกด้วย
นอกจากคำสั่ง allinanchor แล้ว เรายังสามารถใช้คำสั่ง "link:www.theirdomain.extension" ในการเช็คจำนวนเว็บไซต์ทั้งหมดที่ลิงก์มายังเว็บของคุณ
ค. ใช้ SEO software
หากคุณสามารถที่จะจ่าย 100-200 ดอลลาร์เพื่อที่จะประหยัดเวลาและสร้างผลงานที่ดี มันจะเป็นสิ่งที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง
to Dominate Google Rankings!
By Mike Small (c) 2008
Here are a few tips that will help you take full advantage of Google's love of linking...
1.) Link Deep and with Relevance So why is deeper better and what's this about relevance?
Google figured out that a link to a homepage is only good if that homepage has the information the visitor needs.
If a person clicks a link for "amazíng chocolate chip cookie recipe" and ends up on the home page, which has nothing of the sort, Google discounts it as a wasted link.
On the other hand, if the link leads to the page containing info on the "Amazíng Chocolate Chip Cookie Recipe," even five levels deep, the link has huge value to the visitor and to Google.
Want some proof? You already have it if you've ever used Google's AdWords pay per clíck service. They will not even accept PAID links to pages that are not the most relevant for their visitors, regardless of what you are willing to pay per clíck. Now that's saying something!
2.) Use Absolute Links Internally It sounds complicated but it's not. Absolute links are those with a fixed full URL. There's another kind, called "relative" links that skip the first part of the domain and remain "relative" to the file structure. Let's take a look at the difference... Here's the absolute link to the Google Ads page from Google's homepage: "http://www.google.com/intl/en/ads/" Here's what it might look like as a relative link: "./intl/en/ads/" Long story short; absolute links help your SEO efforts and relative links don't.
3.) Use Keywords in Anchor Text
Use relevant keywords in your link anchor text (that is the text within the hyperlink.) Forget about "Clíck Here" like you see on so many sites. Not only does that not help your ranking, it actually lowers the relevancy of your real keywords because Google believes that if a word is important enough it will likely be used as part of a link to get the visitor where they want to go.
4.) Follow the 1% Solution
Make no more than 1% of your page text into links (both outbound and internal.) That is, if you have 500 words on the page there should be no more than 5 text links total. And don't overuse the same keyword text for the links. So if you have three mentions each of three different keywords, try to use each just once in a link. Then use similar text for any remaining links. Example: If "chocolate chip cookies" is your main keyword phrase you might use "chocolate chip cookies" as the anchor text for one link and then "my favorite chocolate chip cookie recipe" for another link. It's also a good idea to use 10 Links Max per page whether you have 1,000 words or 10,000 words on that page.
5.) Add a Link Failsafe
This is really simple and almost nobody does it. Links get broken more often than we like. Sometimes it's because we moved a page and sometimes it has nothing to do with anything we consciously did (especially with blogs.) The solution is to create a custom 404 page (Page Not Found) that looks just like any other page on your site and has a simple note like "We're sorry we cannot find the page you are looking for. However, if you love cookies of all kinds we think you'll find exactly what you want by clicking on one of the following links..." Then of course you have a navigation system for them to follow.
6.) Get the Best Links Possible
This is extremely important yet often overlooked because it can be such a difficult and time consuming job. If you take nothing else away from this article, please take this... Finding the best possible inbound links is the single most important thing you can do to make the number one spot on Google.
Here are three tips to help minimize your time and effort while giving you results SEO experts charge an arm and a leg for.
A.) Get listed in directories.
Submít your site to the top directories like Jayde.com and DMOZ.org. Once they link to your site you will have great relevant inbound links and some instant credibility with Google.
Here are some great free directories in order of value, starting with the best... dmoz.org, jayde.com, webworldindex.com, turnpike.net, and directoryvault.com. Yahoo is important but charges $299 for commercial site inclusion.
B.) Use "Special Commands" to do the legwork for you.
The best linked sites can easily be found with a simple search command called "allinanchor:" Here's how to use it. Go to Google and type in "allinanchor:keyword goes here" (no quotes and no space after the colon.) Now hit Enter and you'll see the sites that have the highest relevancy for keywords used in anchor text. Look for any that you know are competitors and outrank your site.
Now take the URL for any of these and use this command "link:www.theirdomain.extension" (again with no quotes and no space after the colon.) This will show you all the sites linking in as well as internal pages linking back in.
In short, these two special commands give you an inside look at exactly how the competition does what it does with the results they get. This is huge!
C.) Use good SEO software whenever possible.
If you can afford to spend one or two hundred dollars to save huge amounts of time and get professional results, it's well worth it. Like many SEO professionals whose livelihood depends on results, I've been using SEO software to get top search engine placement for years. The best ones not only help you identify great link partners but will even help you contact them and make sure they don't cheat you in any way. I use SEO Elite and am still amazed by all it can do.
If possible, get a tool that also does rank checking and reporting. Once you begin you'll want to check rankings every so often and an automated tool will save you a ton of time. Oddly enough I bought SEO Elite primarily for rank checking then discovered it was worth its weight in gold as linking tool as well. So whatever tool you use, get as much out of it as you can. You might be pleasantly surprised.
